วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บริการรับทำวีซ่าเยอรมัน อยากขอวีซ่าเยอรมัน ติดต่อ SPCENtER โทร. 02-6328271

บริการรับทำวีซ่าเยอรมัน ติดต่อเรา ศูนย์รับทำวีซ่าเยอรมัน   SPCENtER ยินดีให้บริการรับยื่นขอวีซ่าธุรกิจเยอรมัน วีซ่าเยอรมันแบบท่องเที่ยว ประเภทต่างๆพร้อมทั้งบริการรับแปลเอกสารหรือรับรองเอกสารที่เกี่ยวข้องครับ

สายด่วนทุกวัน  086-338-9935 เคน 
สำนักงานโทร. 02-632-8271
นอกเวลางานช่วงเวลา 19.00-22.00
Email : sptranslationcenter@hotmail.com


มีข้อกำหนดใหม่จากทางสถานทูตเยอรมันให้ผู้ยื่นคำร้องทุกท่านต้องเข้ามาเก็บลายนิ้วมือทั้งสิบ เว้นแต่ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 12 ปี ได้รับการยกเว้น โดยผู้ที่ได้รับการอนุมัติวีซ่าสามารถใช้วีซ่าเยอรมันSchengen Visa) เดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเกนได้ทุกประเทศเช่นกัน  เวลาพำนักไม่เกิน 90 วัน ในรอบ 6 เดือน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.spvisa-translations.com/รับทำวีซ่าเยอรมัน
การพิจารณาออกวีซ่าเยอรมันโดยสถานทูตเยอรมัน 

โดยทั่วไปแล้วสถานทูตเยอรมันจะใช้ระยะเวลาดำเนินการสำหรับวีซ่าเยอรมันอยู่ที่  5 วันทำการ หรืออาจมากกว่านั้นแล้วแต่การพิจารณาของเจ้าหน้า จึงควรกำหนดเวลาเดินทางเผื่อเอาไว้ในกรณีฉุกเฉินต่างๆ และไม่สามารถขอล่วงหน้าก่อนวันเดินทางได้ 3 เดือนก่อนกำหนดเดินทาง  
 
เวลารับเล่มคืนพร้อมกับวีซ่าเยอรมัน

ท่านสามารถเข้ามารับวีซ่าเยอรมันโดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้าได้ที่หน่วยวีซ่า ช่วงเวลา 8 โมง - 11 โมงเช้า วันจันทร์ถึงพุธ  
 
การนัดหมายเพื่อยื่นคำขอวีซ่าเยอรมัน 
จำเป็นต้องมีการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อวันที่ยื่นคำขอวีซ่าเยอรมัน โดยต้องโทรนัดหมายเท่านั้นไปยังศูนย์บริการนัดหมายของสถานทูตเยอรมันที่หมายเลข 1900 222 343 (ค่าบริการนาทีละ 9 บาท) วันจันทร์ ถึง วันศุกร์  เวลา 08.00  17.00 น. เมื่อได้วันนัดหมายแล้วกรูณามาติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 15 นาที พร้อมกับหมายเลขรหัสยืนยันการนัดหมายที่ได้รับแจ้ง หรืออาจจะนัดหมายได้โดยตรงโดยติดต่อกับทางสถานทูตเยอรมันโดยเป็นบริการฟรี แต่เปิดเฉพาะวันอังคาร เวลา  14.00-15.00 น. ที่แผนกวีซ่า 
 
หมายเหตุการนัดหมาย
หากท่านเป็นสมาชิกครอบครัวของบุคคลผู้ถือสัญชาติในสังกัดประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (ที่ไม่ใช่ชาวเยอรมัน) ท่านไม่จำเป็นต้องนัดหมาย  และสามารถติดต่อยื่นคำร้องในเวลาทำการปกติ 07.30 - 10.30น. อย่างไรก็ตามสถานทูตฯ ขอแนะนำให้ทำนัดหมาย  เพื่อท่านจะได้ไม่เสียเวลารอโดยไม่จำเป็น
 
สำคัญ: ในการเดินทางเข้าเยอรมนี เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสามารถขอดูหลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง รวมทั้งหลักฐานการเงินสำหรับช่วงเวลาที่พำนักในเยอรมนี หากท่านไม่สามารถแสดงหลักฐานดังกล่าว อาจเป็นเหตุให้ท่านถูกปฏิเสธมิให้เดินทางเข้าประเทศเยอรมนีได้
 
ข้อแนะนำในการจัดหาเอกสารเพือการยื่นขอวีซ่าเยอรมัน 
ควรนำเอกสารทั้งตัวจริงและสำเนามาให้ครบทุกฉบับ โดยจะได้รับคืนหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว และนำส่งสำเนาเอกสารให้แก่สถานทูตเยอรมัน  (จำเป็นต้องแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษหรือเยอรมัน) เนื่องจากเจ้าหน้าที่พิจารณาไม่ใช่คนไทยครับ 
 
การกรอกฟอร์มคำร้องต้องทำผ่านเว็บไซท์ของสถานทูตเป็นแบบออนไลน์เท่านั้น (VIDEX) 
ทางศูนย์ของเราจะเป็นคนจัดทำแบบฟอร์มออนไลน์พร้อมกับแปลเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง 
 
ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า
ค่าธรรมเนียมราคา 60,--ยูโร (เชงเกนและวีซ่าสำหรับเยอรมนี) ต้องชำระเป็นเงินสดสกุลบาทเท่านั้น ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน (ประมาณ2,700 บาท) เป็นค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ และไม่มีการคืนค่าธรรมเนียมในกรณีทีวีซ่าถูกปฏิเสธหรือผู้ยื่นต้องการถอนคำร้อง
 
เด็กได้รับการลดค่าธรรมเนียม เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รับทำวีซ่าญี่ปุ่น มีปัญหาถูกปฏิเสธ ให้คำปรึกษาได้ SPCENtER ศูนย์รับทำวีซ่า เคน 0863389935


รับทำวีซ่าญี่ปุ่น รับทำวีซ่าญี่ปุ่น : Japan Visa 



ศูนย์รับทำวีซ่าญี่ปุ่น และ รับแปลเอกสาร เอสพีเซ็นเตอร์ รับทำวีซ่าญี่ปุ่น ขอวีซ่าญี่ปุ่น มีปัญหาเรื่องขอวีซ่าญี่ปุ่น โดนปฏิเสธวีซ่าญี่ปุ่น คิดจะขอวีซ่านักเรียนญี่ปุ่น ปรึกษาศูนย์รับทำวีซ่าญี่ปุ่น และ  รับแปลเอกสาร ของเราได้เพื่อการวิเคราะห์เบื้องต้น ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ ยินดีรับใช้ครับ เคน 0863389935


การขอวีซ่าญี่่ปุ่น-ในขณะนี้ทางสถานทูตญี่ปุ่นได้เปิดศูนย์ รับทำวีซ่าญี่ปุ่นและรับแปลเอกสาร โดยเปิดทำการที่อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ติดกับ สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง ศูนย์รับทำวีซ่าญี่ปุ่น ดังกล่าวตั้งอยู่ที่ ชั้น 15 เปิดทำการรับยื่น วีซ่าญี่ปุ่น ตั้งแต่วันจันทร์ – วันเสาร์ (ทำการครึ่งวัน)

กรุณาติดต่อเข้ามา เพื่อขอรับบริการปรึกษาขอวีซ่าญี่ปุ่น โทร.086-338-9935 สำนักงาน 02 252 8234 แฟกซ์ 02 25282354 เพื่อขอข้อมูลเบื้องต้นครับ 
ขอวีซ่าญี่ปุ่น 
รับแปลเอกสาร 

จากประสบการณ์ให้บริการยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่น ให้แก่ลูกค้ามากมาย พบว่าหลายท่านมีปัญหาในเรื่องของเงินฝาก/ เงินออมที่ใช้ในการยื่น ในกรณีที่มีผู้เชิญเป็นแฟน หรือสามีญี่ปุ่น พำนักอยู่ในญี่ปุ่น ทางเรายินดีให้ข้อมูลเบื้องต้น เอกสารที่จำเป็นที่ต้องใช้ในการสมัครยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่นเพื่อท่องเที่ยวที่ ประเทศ ญี่ปุ่น ซึ่งเอกสารเหล่านี้เป็นเพียงแค่แนวทางโดยพื้นฐานที่จำเป็นในการสมัครขอวีซ่า ญี่ปุ่น ทั้งนี้อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงเพิ่มเติมตามแต่คุณสมบัติโดย ทั่วไปของผู้สมัคร ทั้งนี้ทางศูนย์วีซ่าของเรายินดีที่จะให้บริการคำปรึกษาเป็นการส่วนตัวทั้ง ทางโทรศัพท์หรือการเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลในเชิงลึก
เอกสารที่ต้องใช้
1.หนังสือเดินทาง (ในวันยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่น มีอายุใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือนและมีหน้าว่าง ที่ไม่มีตราประทับมากกว่า 2 หน้าขึ้นไป หากมีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาแสดงด้วย (เล่มจริง)

2.ใบคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น + แบบสอบถาม ( สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จากทางเว็บไซท์ของสถานฑูตญี่ปุ่น โดยต้องโหลดทั้งแบบฟอร์มการสมัครขอ วีซ่าญี่ปุ่น และแบบสอบถามเป็นจำนวน 2 หน้าครับ 1 ชุด

3.รูปถ่าย (ขนาด 2 x 2 นิ้ว สีหรือขาวดำ ที่มีพื้นหลังเป็นสีอ่อน ไม่มีลวดลาย ไม่มีการแต่งภาพถ่าย จะต้องเป็นรูปถ่ายที่ชัดเจนและถ่ายมาไม่เกิน 6 เดือน) 1 ใบ

4.ทะเบียนบ้าน ฉบับจริงและสำเนา ใช้ในกรณีที่ยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกครับ 1 ชุด

5.ในกรณีที่ผู้ยื่นเป็นพนักงานหรือข้าราชการ ให้แสดงหนังสือรับรองการทำงานจากหน่วยงานที่สังกัด (ให้ระบุตำแหน่ง, วันเริ่มทำงาน, อัตราเงินเดือน และระยะเวลาวันลาพักร้อน) o ในกรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ให้แสดงหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัทหรือทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์
* ในกรณีนักเรียนนักศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ให้แสดงหนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียนนักศึกษา และหนังสือรับรองการทำงานหรือหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าของผู้ปกครองหรือผู้ดูแล 
**ในกรณีผู้อยู่ภายใต้อุปการะเลี้ยงดู เช่น แม่บ้านที่ไม่ได้ทำงาน ให้แสดงหนังสือรับรองการทำงานหรือหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าของสามี หรือคู่ชีวิต ครับ (เอกสารในส่วนนี้ อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เพื่อความเหมาะสมและน่าเชื่อถือสูง สุด) ในกรณีที่ผู้ยื่นไม่มีอาชีพ หรือประกอบอาชีพที่ไม่สามารถแสดงหนังสือรับรองการทำงาน หรือหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าได้กรุณาทำหนังสืออธิบายอาชีพและรายได้ โดยละเอียด) ฉบับจริง 1 ชุด

6.ผู้ที่เดินทางหรือผู้ยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หากเคยเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล หรือผู้ที่ได้เปลี่ยนชื่อตัวหรือสกุลหลังจากเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งที่แล้ว ให้เตรียมเอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล เช่น ใบเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล, ใบสำคัญการสมรส, ใบสำคัญการหย่า ฉบับจริงและสำเนา 1 ชุด

7. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร(ของผู้ยื่นคำร้องหรือของผู้ปกครอง) ฉบับจริงและสำเนา(ทุกหน้า) 1 ชุด (ใช้สำหรับยื่นในกรณีที่ผู้ยื่นเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย ตัวเอง ยกเว้นสำหรับผู้ยื่นที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานบริษัทที่จดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือมหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งมีอัตราเงินเดือนตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไปและสามารถตรวจสอบได้จากหนังสือรับรองการทำงาน ไม่ต้องยื่นสมุดบัญชีธนาคาร ทั้งนี้รวมถึงการยื่นสำหรับครอบครัวในความอุปการะของบุคคลดังกล่าวด้วย) ฉบับจริงและสำเนาทุกหน้า 1 ชุด

กรณีไปเยี่ยมเพื่อนหรือคนรู้จักที่อยู่ในญี่ปุ่น กรุณายื่นเอกสารเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้นดังต่อไปนี้ เอกสารรับรองเหตุผลในการเดินทาง : (อนึ่ง ผู้ที่เคยไปญี่ปุ่นหรือผู้เคยได้รับวีซ่าญี่ปุ่นแล้วภายในเวลา 3 ปี สามารถยกเว้นเอกสารเหล่านี้) จดหมายรับรองความสัมพันธ์ (กรุณาเขียนอธิบาย ประวัติความเป็นมาและช่วงเวลาที่ได้รู้จักกัน), รูปถ่ายที่ถ่ายด้วยกัน, จดหมาย, สำเนาหนังสือเดินทางของเพื่อนหรือคนรู้จักที่ญี่ปุ่น (ถ่ายสำเนาหน้าที่มีชื่อสกุลและรูป และหน้าที่มีตราอนุญาตการพำนักอาศัย) เป็นต้น

กรณีที่เพื่อนหรือคนรู้จักที่อยู่ในญี่ปุ่น เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทาง : ใช้หนังสือรับรองต่อไปนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ของเพื่อนหรือคนรู้จักที่อยู่ในญี่ปุ่น (เช่น หนังสือรับรองการเสียภาษี, หนังสือรับรองบัญชีเงินฝากจากธนาคาร, สำเนาแบบแสดง รายการยื่นภาษีเงินได้,หนังสือรับรองรายได้) อนึ่ง สำหรับหนังสือค้ำประกัน จะยื่นด้วยหรือไม่ก็ได้ เอกสารเหล่านี้ไม่มีกำหนดแบบฟอร์ม ของเอกสาร สามารถดูจากโฮมเพจของกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น เพื่อการขอวีซ่าญี่ปุ่น อัตราค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับผู้สมัครคนไทย ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนไปตามประกาศของทางสถานฑูตญี่ปุ่นจึงควรตรวจสอบก่อนทำ การยื่นทุกครั้ง วีซ่าทั่วไป 1650 บาท สำหรับผู้ยื่นที่มีสถานะเป็นนักเรียนไม่มีค่าธรรมเนียมวีซ่าครับ จ่ายแค่ค่าบริการ VFS ครับ

ผม ทำบล็อกนี้ ขึ้นมาด้วยความรู้สึกจริงใจโดยจะพยายามเพิ่มเนื้อหาการให้บริการข้อมูลราย ละเอียดต่างๆที่จำเป็น รวมทั้งเอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าประเทศต่างๆ ให้ละเอียด พร้อมคำแนะนำที่จำเป็นโดยคร่าวๆ นะครับ ไม่สามารถครอบคลุมได้ถึงทุกสถานการณ์ ของแต่ละคน ซึ่งย่อมมีความแตกต่างกันออกไปทางทั้งเพศ การศึกษา สถานะ และหรือปัจจัยอื่นๆที่กำหนดได้หรือไม่สามารถกำหนดได้ จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการยื่นขอวีซ่าประเทศต่างๆ อาทิเช่น วันที่จะเดินทาง ระยะเวลาที่จะอยู่ ประเภทวีซ่าที่จะขอ ใครเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย การนัดหมายวันนัดยื่นวีซ่า ใครเป็นผู้เชิญ มีเอกสารอะไรบ้างที่จะนำเสนอ โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบนะครับ ขอให้โชคดีครับ เพราะว่ารอยยิ้มของท่านอาจสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด 

ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้มบริการรับทำวีซ่าต่างๆของเราSPVISA-TRANSLATIONCENTERยิ้มกว้างๆยิ้มกว้างๆ
รับทำวีซ่าออสเตรเลีย รับทำวีซ่าจีน รับทำวีซ่าอังกฤษ รับทำวีซ่าอเมริกา รับทำวีซ่าญี่ปุ่น รับทำวีซ่าสวีเดน รับทำวีซ่าจีน รับทำวีซ่าอินเดีย รับทำวีซ่านิวซีแลนด์ รับทำวีซ่าเนเธอร์แลนด์ รับทำวีซ่าพม่า รับแปลเอกสาร รับรองเอกสาร รับทำวีซ่านอร์เวย์  รับทำวีซ่าออสเตรีย รับทำวีซ่าฝรั่งเศส   รับทำวีซ่าฟินแลนด์  รับทำวีซ่าไต้หวัน


Auto Backlink AllNewsSite Link Exchange
Free Automatic Link
Free Auto Backlinks

วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ข้อควรระวัง16อย่างเมื่อเที่ยวเมืองจีนปรารถนาดีโดยศูนย์รับทำวีซ่าจีน SPCENtER



Smileyศูนย์บริการรับทำวีซ่าจีน  SPCENtER เป็นตัวแทนบริการรับทำวีซ่าจีนในนามของท่านได้ตามระเบียบการใหม่ของสถานทูตจีนที่กำหนดให้ตัวแทนท่องเที่ยวต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานเพื่อบริการรับทำวีซ่าจีนดังกล่าวSmiley

 
SmileySmiley888/10-11 ชั้น 4 อาคารมหาทุนพลาซ่า ห้อง 401 ถ.เพลินจิต
SmileySmileyแขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10310
SmileySmileyโทรศัพท์ สายด่วน (T) เคน 086-338-9935 สำนักงานโทร. 02-2528234 
SmileySmileyแฟกซ์ 02-2528234

ผมเขียนบล็อกนี้ขึ้นเพราะเนื่องจากหลังให้บริการรับทำวีซ่าจีนก็พบว่ามีผู้สนใจทำวีซ่าจีนเป็นจำนวนมากจึงควรมีความรู้เบื้องต้นเพื่อจะได้ไปเที่ยวเมืองจีนอย่างปลอดภัยครับSmiley


เป็นที่ชัดเจนว่าหนังสือเดินทางและวีซ่าจีนมีความสำคัญที่สุด ต้องพกติดตัวตลอด ขณะที่กระเป๋าสตางค์แนะนำให้ใส่กระเป๋าสะพายและต้องสะพายข้างหน้า ขณะที่ยอมรับว่าแบงค์ปลอมระบาดหนักโดยเฉพาะแบงค์ 100-50 หยวน พร้อมแนะวิธีตรวจสอบง่ายๆ ส่วนบัตรเครดิตต้องระวังเรื่องสกุลเงิน เพราะสินค้าราคาหยวน แต่เราอาจต้องซื้อราคาดอลลาร์ อีกทั้งไม่แนะนำซื้อ MP 3-4 และมือถือ เพราะกลับมาแล้วใช้งานไม่ได้ เตือนนักท่องเที่ยวชายท่องราตรีเอง ระวังถูกดูดเงินเกลี้ยง!
ฤดูหนาวมาถึงแล้ว ก็เป็นอีกหนึ่งฤดูที่คนมักจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศกัน โดย "จีน"เป็นหนึ่งในประเทศที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยวไม่น้อย แต่การไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างเป็นเรื่องที่เราต้องระวังตัว ที่เมืองจีนก็เช่นกัน ถ้าไปท่องเที่ยวเมืองจีนอะไรบ้างที่ต้องระวัง! 

พาสปอร์ตห้ามไว้ในโรงแรม 

สุพัฒนา คุ้มรุ่งโรจน์ ผู้จัดการบริษัทอบอร์ดทัวร์ (abroad-tour) ผู้คลุกคลีในวงการทัวร์จีนมากว่า 20 ปี กล่าวว่า การไปเที่ยวเมืองจีน หรือเดินทางไปเมืองจีนนั้น มีข้อควรระวังหลายประการ แต่ได้รวบรวมปัญหาที่พบเจอบ่อยๆ ดังนี้ 

1. "พาสปอร์ต" เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งในเมืองจีนก็เช่นกัน นักท่องเที่ยวจะต้องถือติดตัวตลอดเวลา ห้ามเอาทิ้งไว้ในโรงแรม เพราะอาจจะถูกขโมยไปทำเป็นพาสปอร์ตปลอมได้ ซึ่งหากพาสปอร์ตสูญหายในเมืองที่มีกงสุลไทย ได้แก่ กวางเจา เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และคุนหมิงนั้น จะถือว่าโชคดีกว่าหายในเมืองอื่นๆ เพราะจะได้รับความสะดวกในการขอพาสปอร์ตเล่มใหม่ ซึ่งจะใช้เวลาเพียงแค่ 2 วัน แต่หากหายในเมืองอื่นๆ จะต้องแจ้งความในพื้นที่นั้นๆ ก่อน จึงค่อยนำจดหมายกลับมาที่กงสุลที่ 4 เมืองหลัก และโดยทั่วไปแล้วจะต้องใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งลูกทัวร์จะต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมนั้นเอง 
"แนะนำว่าถ้าไปต่างประเทศ ควรจะพกใบถ่ายเอกสารหน้าพาสปอร์ตไว้ติดตัว เวลาไปเช็คอินเข้าโรงแรมหรือทำอะไรจะได้ไม่ต้องหยิบพาสปอร์ตเล่มจริงขึ้นมา บ่อยๆ ทำให้หายง่าย และหากพาสปอร์ตหาย เวลาไปติดต่อกงสุลจะง่ายและรวดเร็วกว่า" 

2.กระเป๋าเงิน ปกติผู้ชายจะพกกระเป๋าสตางค์ไว้ที่กระเป๋ากางเกงข้างหลัง ส่วนผู้หญิงจะมักใส่ในกระเป๋าใบใหญ่อีกใบหนึ่ง สำหรับผู้ชายแนะนำว่าให้นำกระเป๋าสตางค์มาใส่ไว้ในกระเป๋าด้านหน้าจะดีกว่า และพบว่ากระเป๋าที่ปลอดภัยที่สุดคือกระเป๋าสะพายสายยาว และหากสะพายกระเป๋าจะต้องสะพายไว้ด้านหน้า
"มีคำกล่าวอยู่ประโยคหนึ่งในประเทศจีนว่า หากกระเป๋าอยู่ด้านหน้า กระเป๋านั้นจะเป็นของเรา แต่ถ้ากระเป๋าอยู่ด้านหลังกระเป๋านั้นเป็นของคนข้างหลัง ถ้ากระเป๋าอยู่ด้านข้าง แสดงว่าเป็นของเราครึ่งหนึ่ง ของคนอื่นอีกครึ่งหนึ่ง" 

3.แหล่งชอปปิ้ง จุดชมวิว และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่นพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง ในบริเวณที่มีคอกกั้น หรือมีกระจกกั้นๆ ต่างๆ จะเป็นจุดที่มีการล้วงกระเป๋ามากที่สุด 

4.หากไปกวางตุ้ง ถ้าไปซื้อของแบกะดิน ห้ามพูดว่า "แพง" ในภาษาไทย เพราะไปพ้องเสียงกับคำว่า "ถูก มากๆ" ในสำเนียงกวางตุ้ง พ่อค้าและแม่ค้าจะนำของใส่ถุงให้ทันที และหากไม่เอาของนั้น อาจถูกต่อว่าจากแม่ค้าได้ 

5.มีคำกล่าวว่า หากมีแม่ค้าพ่อค้ามาขายของข้างรถ คนซื้อที่หลังจะได้ของถูกกว่า คนซื้อคนแรกจะเปรียบเสมือนวีรบุรุษ เช่น ช่วงโอลิมปิคมีคนเดินมาขายหมวกโอลิมปิคราคา 30 หยวน คนซื้อคนแรกนึกว่าถูกแล้ว คนถัดไปได้ 20 หยวน แต่คนสุดท้ายได้ซื้อในราคา 3 ใบ 10 หยวน จึงจะแนะนำลูกทัวร์เสมอว่า ห้ามนำสินค้ามาอวดกันในรถเด็ดขาด 

แนะวิธีดูแบงค์ปลอมอย่างง่าย 

6.ระวังแบงค์ปลอม โดยเฉพาะการไปซื้อของที่ตลาด ที่ผ่านมามักเจอคนไปซื้อผลไม้ในตลาด ผลไม้มีราคา 10 หยวน แต่นักท่องเที่ยวมักจะมี แบงค์ 100 หยวน พอนักท่องเที่ยวเอาแบงค์ 100 หยวนให้ เขาจะรับไปใส่กระเป๋า แล้วทำท่าค้นหาเศษตังค์มาทอน สุดท้ายบอกไม่มีเงินทอน ให้ยืมเพื่อนมาจ่ายก่อน แล้วหยิบแบงค์ 100 หยวนมาคืน แต่แบงค์นั้นจะเป็นแบงค์ปลอม ซึ่งแบงค์ที่เจอว่าปลอมมากที่สุดมักเป็นแบงค์ 50 หยวน
"ถ้าจะซื้อของให้จำตัวเลข 3 เลขท้ายในแบงค์ไว้ก่อน และพอได้เงินคืนให้ขอเงินที่มีเลข 3 ตัวหลังของเราคืน"
นอกจากนี้ยังมีวิธีดูแบงค์จีนง่ายๆ คือ

6.1.ถ้าได้แบงค์มาให้สะบัด จะมีเสียงสะท้อนกลับเบาๆ ถ้าไม่มีเสียงอะไรเลย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นแบงค์ปลอม
6.2.ปกเสื้อของท่านประธานเหมา เจ๋อตง ให้เอาเล็บกรีดเบาๆ ที่ปกเสื้อท่านเหมา ถ้าสากๆ เป็นของจริง แต่ถ้าลื่นๆ เป็นของปลอม
6.3.หากระดาษขาว 1 แผ่น เอาตัวเลข 100 บนมุมแบงค์มากดเข้าไปในกระดาษขาว ถ้าแบงค์จริงจะมีสีแดงติดออกมา กดกี่ครั้งก็จะติดทุกครั้ง แต่ถ้าแบงค์ปลอมจะไม่ติดสีแดงที่กระดาษขาว
ช็อปปิ้งในจีนต้องต่อ 80%

7.ถ้าไปซื้อของในร้านค้าในอาคารต่างๆ โดยเฉพาะของก๊อปปี้ในแหล่งชอปปิ้ง ที่จะมีในทุกเมืองใหญ่เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ จูไห่ เซินเจิ้น ควรจะต่อราคาสินค้าลงมาให้เหลือ 20%

8.หากซื้อสินค้าประเภทกระเป๋า รองเท้า เมื่อลองเรียบร้อยแล้วให้หยิบขึ้นมาเลย เพราะลูกทัวร์จะเจอบ่อยว่าเวลาแม่ค้าเอาของไปใส่ถุงมาให้ มักจะเป็นรองเท้าคนละเบอร์กัน ได้รองเท้าข้างเดียวกัน หรือว่าข้างหนึ่งสีหนึ่ง อีกข้างหนึ่งสีหนึ่งเป็นต้น สบู่-ยาสระผมปลอมอื้อ

ด้านศิริวรรณ ยอดอ่อน หัวหน้าทัวร์บริษัทเซี่ยงไฮ้ เอ็กซเพสส พลับบลิค ฮอลิเดย์ กล่าวถึงสิ่งที่ต้องระวังหากไปเที่ยวเมืองจีนเพิ่มเติมว่า
9.มาตรฐานโรงแรมของจีน จะยังไม่ใช่มาตรฐานตามหลักสากลนัก หากจองโรงแรมไปเที่ยวเอง บางครั้งอาจพบว่าโรงแรม 4 ดาวของจีน อาจจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าโรงแรม 4 ดาวของประเทศอื่นๆ หรือห้องอาจมีลักษณะแค่ 3 ดาว แต่อยู่ในทำเลค้าขายจึงเรียกว่า 4 ดาวก็ได้เช่นกัน

10.การนั่งรถแท็กซี่ของจีน มักจะถูกพาไปวน หากนักท่องเที่ยวอยากจะไปท่องเที่ยวเองนอกเหนือจากทัวร์และอยากไปแท็กซี่ แนะนำว่าให้ไกด์ท้องถิ่นเป็นคนสื่อสารเส้นทางให้ และระบุเส้นทางไปให้ชัดเจน อีกทั้งแท็กซี่เมืองจีนจะพูดได้ภาษาเดียว คือภาษาจีนกลาง และไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ ที่สำคัญควรติดนามบัตรของโรงแรมไปด้วย เพราะไม่ให้เสียเวลาในการหาโรงแรมช่วงขากลับ

11.หากไปอยู่นานๆ และจำเป็นต้องซื้อของอุปโภคมาใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม แนะนำว่าอย่าซื้อในร้านขายของชำของจีน เพราะมีของปลอมจำนวนมาก ที่ผ่านมาเคยไปซื้อสบู่เซฟการ์ด ซึ่งมีลักษณะรูปร่างของกล่องเหมือนที่มีวางขายในเมืองไทย แต่พอนำมาใช้ จะมีกลิ่นที่แตกต่าง ไม่มีความหอม และที่สำคัญยังทำให้เกิดอาการคัน และแพ้แม้กระทั่งน้ำยาล้างจานก็เคยพบว่ามีการทำปลอมเช่นกัน

12.ไม่แนะนำให้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองจีน โดยเฉพาะ MP3-4 หรือโทรศัพท์มือถือ เพราะว่าขณะที่ทดลองเครื่อง จะได้เครื่องดีๆ มาในการทดลอง แต่พอได้ของกลับบ้านไป มักจะได้ของที่ไม่สามารถใช้งานได้จริงกลับบ้านไป เช่น MP 4 มี 16 กิ๊กกะไบท์ แต่ฟังได้แค่ 16 เพลง เป็นต้น ส่วนมือถือ ก็มักจะใช้ได้แค่โทรเข้า โทรออก
เที่ยวคาราโอเกะจีนระวังจน!
ด้านเดชธิชัย เลียนทอง เจ้าของบริษัทสตาร์ดัสท์ทราเวล จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านทัวร์จีน แนะนำเช่นกันว่าไม่ควรซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจีน โดยเฉพาะมือถือเพราะใช้งานจริงได้น้อยมาก นอกจากนี้ยังเตือนว่า

13.เวลาไปซื้อของโดยใช้บัตรเครดิต จะต้องระวังอย่างมาก โดยเฉพาะจะต้องดูเรื่องสกุลเงิน เพราะที่ผ่านมาเคยมีคนไปซื้อของ ไม่ได้ตรวจใบเสร็จ ตอนหลังถึงพบว่าสกุลเงินที่ร้านเก็บไปเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งจะแพงกว่าเงินหยวนหลายเท่า

14.ซื้อของที่มีตาชั่งแบบจีนต้องระวัง เพราะมักจะมีตัวหนังสือเป็นภาษาจีนได้แก่ 500 กรัม หรือ 1000 กรัม คนไทยมักดูไม่เป็น และหน่วยการชั่งก็จะไม่เหมือนที่อื่นคือ 1 ชั่งเท่ากับครึ่งกิโลกรัม นอกจากนี้พ่อค้าส่วนใหญ่จะมีการโกงตาชั่งด้วย ถ้าหากจะซื้อของจึงแนะนำให้อาศัยไกด์ท้องถิ่นช่วยดูตาชั่งให้จะเป็นการดี

15.นักท่องเที่ยวผู้ชายมักจะนิยมไปเที่ยวกลางคืนต่อ โดยเฉพาะไปคาราโอเกะ ปัญหาสำคัญคือการไม่รู้ภาษาจีน จึงทำให้ถูกหลอกได้ง่าย ที่ ผ่านมาเคยเจอกรณีลูกทัวร์เจอเช็คบิลไปในราคา 1,000 -10,000 หยวนซึ่งแพงมาก จนต้องเรียกไกด์ไปเคลียร์ ซึ่งจะมีค่าเด็กดริงค์ ค่าเซอร์วิสชาร์ทต่างๆ รวมถึงมีราคาเครื่องดื่มที่ไม่ได้สั่งติดมาด้วย ที่ผ่านมาเมื่อไปเคลียร์ให้ ก็จะถามว่าสภาพสินค้าเป็นอย่างไร ก็จะบอกว่าไม่สมเหตุผล ไม่ยุติธรรม สุดท้ายได้ลดลงมากว่าครึ่ง
16.เวลาไปนอกเมืองและเรียกรถแท็กซี่ไปตามแหล่งต่างๆ คนขับจะบอกว่าให้ราคาเท่าไรก็ได้แล้วแต่คุณ แต่ปรากฎว่าพอไปถึงที่ กลับเรียกเงินสูงมาก เช่น ปกติจะตกอยู่ประมาณ 60 หยวน แต่พอถึงที่แท็กซี่จะเรียกราคา 200 หยวนเป็นต้น ซึ่งถ้าไม่ให้แท็กซี่ก็จะไม่ยอม เพราะมาส่งถึงที่แล้ว ดังนั้นก่อนขึ้นรถต้องถามให้ละเอียด และต่อรองราคาให้เสร็จสิ้นก่อน

ทั้งหมดนี้คือปัญหาที่นักท่องเที่ยวหรือประชาชทั่วไปที่ต้องเดินทาง ไปประเทศจีน จะต้องเผชิญดังนั้นหากเราเตรียมพร้อมเรื่องดังกล่าวก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 

Smileyศูนย์รับทำวีซ่า-รับแปลเอกสาร SPVISA-TRANSLATION CENTER Smiley

รับทำวีซ่าออสเตรเลีย รับทำวีซ่าจีน รับทำวีซ่าอังกฤษ รับทำวีซ่าอเมริกา รับทำวีซ่าญี่ปุ่น รับทำวีซ่าสวีเดน รับทำวีซ่าจีน รับทำวีซ่าอินเดีย รับทำวีซ่านิวซีแลนด์ รับทำวีซ่าเนเธอร์แลนด์ รับทำวีซ่าพม่า รับแปลเอกสาร รับรองเอกสาร รับทำวีซ่านอร์เวย์  รับทำวีซ่าออสเตรีย รับทำวีซ่าฝรั่งเศส   รับทำวีซ่าฟินแลนด์